Déjà Vu

Déjà Vu คือ ความรู้สึกที่ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เช่น ขณะที่เรากำลังอ่านคำอธิบายเกี่ยวกับ Déjà Vu เรารู้สึกเหมือนว่า การอ่านนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
Déjà Vu เป็นคำที่ Émile Boirac นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสได้กล่าวถึงเป็นครั้งแรกผ่านจดหมายที่เขาเขียนไปถึงวารสาร Revue philosophique และได้รับการอธิบายโดยละเอียดอีกครั้งในงาน The psychology of the future หรือ L'avenir des sciences psychiques ว่า เป็นอาการรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ต่างๆ การกระทำ การแสดงออก บทสนทนาที่เราได้ยินได้ฟังได้อ่าน เหมือนเคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อนแล้ว เพียงแต่ Boirac ได้ขยายหรือเสริมต่อไปว่า Déjà Vu สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในตอนที่เราตื่นลืมตา หรือแม้แต่ตอนที่เราฝัน เช่น ในความฝัน เรารู้สึกว่าเราเคยฝันมาก่อนแล้ว
Déjà Vu สำหรับนักจิตวิทยาหมายความถึง ‘ภาพลวงของความทรงจำ’ ที่มาในรูปของการหวนระลึกย้อนที่ทำให้เราเกิดความสับสนระหว่างเหตุการณ์ปัจจุบันและอดีต เมื่อเกิดมากเข้าก็จัดเป็นกลุ่มอาการ หรือความเจ็บป่วยทั้งทางจิต หรือประสาท
ในงานช่วงท้ายของชีวิต Henri Bergson นักปรัชญาคนสำคัญชาวฝรั่งเศส ได้พยายามอธิบายถึงแนวคิดเรื่อง Déjà Vu ไว้ในความเรียงที่ชื่อว่า ‘Memory of the Present and False Recognition’
Bergson อธิบายว่า “สิ่งสำคัญที่ควรจะรู้นั้นไม่ใช่ว่า ทำไม Déjà Vu ถึงเกิดขึ้นในบางครั้งบางเวลา แต่ควรเป็นคำถามว่าทำไมมันถึงไม่เกิดกับทุกคน หรือในทุกเวลา”
การเกิดขึ้นของ Déjà Vu สำหรับ Bergson แล้วไม่ใช่ความสับสน หรือไม่ใช่เพียงการรับรู้ที่คลาดเคลื่อน ซึ่งทำให้เราเข้าใจไปว่า เหตุการณ์ที่เรากำลังเจออยู่นั้น เราเคยประสบพบเจอมาก่อนแล้ว เพราะ Bergson เห็นว่า Déjà Vu คือการเผยให้เห็นให้เห็นความจริงที่ว่า แท้จริงแล้วการรับรู้และความทรงจำเกิดขึ้นโดยพร้อมกันเสมอ มันคือผลรวมของการมอง การได้ยิน การมีประสบการณ์ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา หากว่าเราเริ่มแลเห็นการทับซ้อน หรือเข้าใจว่าทั้งหมดคือสิ่งที่เคยเกิดมาแล้ว มันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่า ‘การเปิดเผย’ ให้เห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ว่า ปัจจุบันขณะก็คือการทาบซ้อนของการรับรู้และความทรงจำ
สำหรับ Bergson แล้ว การเกิด Déjà Vu จึงเป็นเหมือนการเข้าถึงชีวิต (attention to life) และเขาเชื่อว่า ถึงที่สุดแล้ว ความทรงจำคือ ความทรงจำแห่งปัจจุบันอันเป็นนิรันดร์
• • •