Sally Mara's Intimate Diary

ครึ่งหลังของทศวรรษ 1940 หรือภายหลังสงครามสิ้นสุดลง ปารีสกลับมาเป็นมหานครแห่งแสง ศูนย์กลางของศิลปะ วรรณกรรม และปรัชญาอีกครั้ง

นี่ไม่ใช่คำกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด หากเราจะเห็น Sartre, de Beauvoir, Camus, Miles Davis, Juliette Gréco, Duke Ellington, Boris Vian, Raymond Queneau etc. ออกท่องราตรี คล้ายดังที่ Woody Allen ได้พรรณนาไว้ใน Midnight in Paris

Gréco นั้นไม่เพียงแต่ได้รักกับ Miles Davis หากเธอยังได้ร้องเพลงที่คำร้องแต่โดย Sartre, Queneau และ Jacques Prévert ส่วน Boris Vian นอกเหนือจากการเขียนนวนิยาย เขายังได้บรรเลงเพลงร่วมกับ Miles กับ Ellington ในแทบทุกค่ำคืนอีกด้วย

ปี 1946 สำหรับ Queneau นักเขียนคนสำคัญชาวฝรั่งเศสจึงเป็นปีของความปรารถนา กามารมณ์ที่เขาเหมือนจะไม่เคยแสดงออกก่อนหน้า ห้วงเวลานี้เองที่ Queneau พบรักกับหญิงสาวที่มักจะมีบุคลิกคล้ายๆ กันนั่นก็คือ เป็นคนนิ่งๆ พูดน้อย แต่ดูฉลาดลึกล้ำ หนึ่งในหญิงสาวที่ Queneau แทบจะตกหลุมรักในทันทีก็คือ Iris Murdoch นักเรียนปรัชญาเชื้อสายไอริช ที่เวลานั้นยังไม่ตีพิมพ์นวนิยายเล่มแรก

ทั้งสองเขียนจดหมายถึงกันหลายร้อยฉบับ แม้จะไม่ได้คบหา หรือเป็นคนรักจริงๆ แต่ในจดหมายของ Murdoch นั้นก็มีเนื้อความที่เผยถึงความรู้สึก ความปรารถนาที่เธอมีต่อ Queneau อย่างชัดแจ้ง

Queneau ได้เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในช่วงปีที่ร้อนเร่านี้ให้เป็นนวนิยาย เขาได้สร้างตัวตนใหม่ขึ้นมาภายใต้ชื่อ Sally Mara เพื่อบอกเล่า สารพัดเรื่องที่เขาไม่สามารถเขียนได้ในนาม Raymond Queneau

Sally Mara ถูกสร้างชีวประวัติให้เป็นนักเขียนชาวไอร์ริช มีชีวิตอยู่ในไอร์แลนด์ ดินแดนที่ Queneau ยังไม่เคยไป แต่เรื่องราวชีวิตของเธอ บันทึกลับของเธอ (ที่ประกอบขึ้นจากการ parody นวนิยายมากมายซึ่งเขาได้อ่าน) ได้กลายเป็นที่สนใจใคร่รู้ของคนอ่านอย่างมาก

จน Queneau ต้องพยายามหาทางทำให้เธอดูเหมือนมีตัวตนจริงขึ้นมา โดยอาศัยเพื่อนของเขา แปลข้อเขียนตอบสัมภาษณ์ของเธอ ที่ Queneau เขียนกลับไปเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อแปลกลับเป็นฝรั่งเศส หรือภาษาอื่นๆ อีกรอบ

ว่าไป เหตุพิสดารที่เกิดขึ้นกับ Queneau ถือว่าไม่ใช่ครั้งแรก เพราะสำนักพิมพ์ Éditions du Scorpion ที่ตีพิมพ์งาน Sally Mara ก็เคยตีพิมพ์งานที่โด่งดังและอื้อฉาว J'irai cracher sur vos tombes (1946) หรือ I Spit on Your Graves ของ Boris Vian ภายใต้นามปากกา Vernon Sullivan มาแล้ว และ Boris Vian ก็ต้องใช้วิธีคล้ายๆ กันในการทำให้นักอ่าน/สื่อทั้งหลายเชื่อว่า Vernon Sullivan มีตัวตนจริงๆ

• • •